
ฮูเลี่ยน อัลบาเรซ ซัดประตูเบิกร่องช่วยให้ “ฟ้าขาว” อาร์เจนติน่า เปิดบ้านถล่ม “แซมบ้า” บราซิล ขาดลอย 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 31 คะแนน การันตีการผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2026 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งสองทีมคว้าชัยมาในการลงเล่นเกมที่แล้ว อาร์เจนติน่า บุกไปเฉือนอุรุกวัยมา 1-0 นำจ่าฝูงของตาราง จัดทัพวาง ฮูเลี่ยน อัลบาเรซ ลงล่าตาข่าย ส่วน บราซิล ชนะ โคลอมเบีย มา 2-1 แต่มีแกนหลักต้องถอนตัวถึง 4 ราย ทำให้ต้องเรียกเพิ่ม ไม่มี อลิสซอน เบ็คเกอร์ ส่ง เบนโต้ ลงเฝ้าเสา
เริ่มเกมมาเพียง 4 นาที เจ้าถิ่นได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ ติอาโก้ อัลมาด้า แทงทะลุช่องให้กับ ฮูเลี่ยน อัลบาเรซ ปั้มชนะแนวรับบราซิล ก่อนจะหลุดเข้าไปดีดผ่านตัว เบนโต้ ไม่เหลือ
อีก 8 นาทีต่อมา เจ้าบ้านมาบวกเพิ่มเป็น 2-0 จากจังหวะที่ นาฮูเอล โมลิน่า ขึ้นมาเติมฝั่งขวาก่อนจะเปิดยัดบอลแฉลบแนวรับทีมเยือนไปเข้าทาง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ชาร์จโล่ง ๆ ที่เสาสองเข้าไป
นาทีที่ 25 บราซิล ไม่ยอมแพ้มาได้ประตูตีไข่แตกไล่ตามเป็น 2-1 จากความผิดพลาดของ คริสเตียน โรเมโร่ โดนฉกและเป็น มาเตอุส คุนญ่า ที่ซัดไกลเสียบเสาแรก
ก่อนจบครึ่งแรกนาทีที่ 37 “ฟ้าขาว” มาได้ประตูทิ้งห่างเป็น 3-1 คราวนี้เป็น เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ที่วางเข้ากลางให้กับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ สอดเข้าไปสะกิดบอลเปลี่ยนทางอย่างเหลือชั้น
กลับมาเล่นครึงหลังนาทีที่ 71 อาร์เจนติน่า นำห่างไปไกลได้ประตูเป็น 4-1 จากจังหวะเล่นเร็ว นิโคลัส ทาเกลียฟิโก้ หลุดไปริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดไปเสาสองให้กับ จูเลียโน่ ซิเอโอเน่ ซัดมุมแคบแสกหน้า เบนโต้ อย่างเฉียบคม
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ทำให้จบเกม อาร์เจนติน่า เปิดบ้านถล่ม บราซิล 4-1 มีเพิ่มเป็น 31 คะแนน การันตีลุยศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นทีมที่ 4 ไม่นับรวมเจ้าภาพอย่าง (สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก และแคนาดา) ต่อจาก ญี่ปุ่น, นิวซีแลนด์ และอิหร่าน
11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เจนติน่า (4-1-4-1): เอลิเลียโน่ มาร์ติเนซ, นาฮูเอล โมลิน่า, คริสเตียน โรเมโร่, นิโคลัส โอตาเมนดี้, นิโคลัส ทาเกลียฟิโก้, เลอันโดร ปาเรเดส, โรดริโก้ เดอ ปอล, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ติอาโก้ อัลมาด้า และฮูเลี่ยน อัลบาเรซ
บราซิล (4-2-3-1): เบนโต้, เวสลีย์ ฟรานซ่า, มาร์ควินญอส, มูริลโล่, กิลเยเมร์ อาราน่า, อันเดร์ ตรินตานเด้, โชลินตอน, ราฟินญ่า, มาเตอุส คุนญ่า, โรดริโก้ และวินิซิอุส จูเนียร์